ระบบบนชิป (SoC) ที่สร้างขึ้นสำหรับอุปกรณ์ Pixel ของ Google เรียกว่า Google Tensor เนื่องจากได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับการทำงานของแมชชีนเลิร์นนิง จึงสามารถทำงาน AI ที่ยากได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าชิปเซ็ตพื้นฐาน นอกจากนี้ Google Tensor ยังเป็นโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลังและประหยัดพลังงานมากกว่า โดยสามารถทำงาน AI และ ML ที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าโทรศัพท์มือถือ Pixel รุ่นก่อน
Google ให้ความสำคัญกับทิศทางที่โมเดล ML กำลังมุ่งหน้าไปมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยร่วมออกแบบ Google Tensor กับ Google Research ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจึงสามารถสร้างแพลตฟอร์ม AI/ML ได้ นอกจากนี้ เนื่องจากการทำงานร่วมกันระหว่างการวิจัย ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ของ Google จึงมีการเพิ่มคุณลักษณะใหม่ๆ ลงใน Pixel 6 และ Pixel 7
คุณลักษณะเหล่านี้ได้เปิดใช้ประสบการณ์ใหม่ที่น่าทึ่งกับ Google Tensor ซึ่งต้องการ ML ขั้นสูง เช่น Motion Mode, Face Unblur, โหมดปรับแต่งเสียงสำหรับวิดีโอ และการใช้ HDRnet กับภาพยนตร์ นอกจากนี้ ด้วยการดัดแปลงสมาร์ทโฟนจากฮาร์ดแวร์ขนาดเดียวให้เป็นอุปกรณ์ที่ชาญฉลาดพอที่จะเคารพและปรับให้เข้ากับวิธีต่างๆ ที่เราใช้งานโทรศัพท์ของเรา Google Tensor ช่วยให้เราสามารถขยายขอบเขตการทำงานในสมาร์ทโฟน
สมาร์ทโฟน Pixel มีประโยชน์มากขึ้นและดีกว่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้น AI กำลังปรับปรุงช่วงเวลาในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ Pixel อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแปลภาษา แก้ไขรูปภาพ หรือโทรออกในบริเวณที่มีเสียงดัง ต่อไปนี้เป็นเจ็ดวิธีที่ชิปที่สร้างขึ้นเองและเทคโนโลยี AI ของ Google Tensor ช่วยให้ Pixel ดีขึ้น:
สารบัญของ Google
#1 Magic Eraser
Magic Eraser วางจำหน่ายครั้งแรกใน Pixel 6 และ Pixel 6 Pro เพื่อเป็นเครื่องมือในการลบบุคคลและวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพถ่าย เกือบจะดูดีเกินจริง แต่มันโฆษณาว่าเป็นเครื่องมือในการลบคนที่โฟโต้บอมบ์รูปภาพหลังจากถ่าย
คุณสามารถใช้ Magic Eraser นี้ทำอะไรได้บ้าง
1.กำจัดสิ่งรบกวนโดยอัตโนมัติโดยเลือก
Magic Eraser สามารถระบุ องค์ประกอบที่ทำให้เสียสมาธิในภาพของคุณ เช่น ผู้คนในพื้นหลัง เสาไฟฟ้าหรือสายไฟ และสิ่งพิเศษอื่นๆ ในรูปภาพของคุณ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่คุณอาจต้องการลบ หลังจากนั้น คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าจะแตะแต่ละรายการเพื่อลบทีละรายการหรือจะล้างทั้งหมดพร้อมกัน
2.ใช้แปรงหรือวงกลมวัตถุเพื่อลบออกด้วยตนเอง
อะไรก็ได้ คุณต้องการลบหรือสามารถครอบคลุมเป็นวงกลมหรือด้วยแปรง Magic Eraser ใช้แมชชีนเลิร์นนิงเพื่อระบุสิ่งที่คุณพยายามจะลบตามสิ่งที่คุณวงกลม คุณจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการแปรงอย่างแม่นยำ เมื่อคุณตัดสินใจได้แล้วว่าต้องการลบอะไร Magic Eraser จะใช้การเรียนรู้ของเครื่องอีกครั้งเพื่อประมาณว่าพิกเซลจะปรากฏอย่างไรเมื่อไม่มีสิ่งรบกวน
อ่านด้วย-Google Pixel Watch: ทุกสิ่งที่คุณต้องการ รู้
#2. Photo Unblur
Photo Unblur เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่มีเฉพาะใน Pixel 7 และ Pixel 7 Pro เท่านั้น คุณลักษณะนี้ทำให้ง่ายต่อการโฟกัสหรือเพิ่มความคมชัดให้กับภาพที่พร่ามัวด้วยการแตะเพียงไม่กี่ครั้ง โดยจะตรวจจับและลบภาพเบลอและสัญญาณรบกวนโดยใช้แบบจำลองที่ Google สร้างขึ้น ทำงานบนอุปกรณ์เพื่อปรับปรุงคุณภาพของภาพทั้งหมดและทุกใบหน้าในนั้น
นอกจากนี้ คุณสามารถซ่อมแซมรูปภาพของปู่ย่าตายายหรือลูกของคุณ เพราะสิ่งนี้ใช้ได้กับรูปภาพที่ไม่ได้ถ่ายด้วยกล้อง Pixel ด้วยซ้ำ รูปภาพเก่าๆ ที่มัวหมองของคุณได้รับการชุบชีวิตใหม่ด้วย Photo Unblur แอปพลิเคชันที่ยอดเยี่ยมซึ่งใช้ได้กับทั้งรูปภาพใหม่และเก่าที่จัดเก็บไว้ในห้องสมุด Google Photos ของผู้ใช้
อ่านวิธีแก้ไขพิกเซลค้างบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณด้วย
#3 Real Tone
Real Tone เป็นเทคนิคที่ครอบคลุมและความมุ่งมั่นของ Google ในการถ่ายทอดความแม่นยำไปยังกล้องและภาพที่กล้องสร้างขึ้น โดยเฉพาะเพื่อสะท้อนความแตกต่างของโทนสีผิวที่หลากหลายได้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่เทคโนโลยีเดียว แต่เป็นการรวบรวมการปรับปรุงที่เป็นส่วนหนึ่งของ Image Equity Initiative ของ Google ความคิดริเริ่มนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างกล้องและผลิตภัณฑ์การถ่ายภาพที่ทำงานอย่างเท่าเทียมกันสำหรับคนผิวสี
สิ่งนี้มีความสำคัญเนื่องจากในอดีตกล้องและปัญญาประดิษฐ์มีศูนย์กลางอยู่ที่ผิวสีอ่อน สิ่งนี้ส่งผลให้เกิดความเอนเอียงของสีผิวในภาพที่สร้างขึ้น ความลำเอียงนี้มีผลกระทบจริง เช่น คนที่มีสีผิวคล้ำขึ้นโดยไม่เป็นธรรมชาติ ดูเข้มขึ้น และสว่างขึ้น หรืออิ่มตัวน้อยกว่าในชีวิตจริงอย่างมาก
ดังนั้น “Real Tone” จึงปรารถนาที่จะประกาศหัวข้อนี้โดยปรับปรุงลักษณะของโทนสีผิว จดจำชุดใบหน้าที่กว้างขึ้น ทำให้ความสว่างของผิวดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น การลดภาพที่ดูจืดชืด และเพิ่มความคมชัดของภาพที่พร่ามัว ท่ามกลางการปรับปรุงเพิ่มเติม
Also Read-ด้วย Galaxy Experience Space Samsung นำเสนอประสบการณ์แบบตัวต่อตัวระดับมหากาพย์
#4 Super Res Zoom – มองได้ไกลขึ้นและดีขึ้น
Super Res Zoom ซึ่งแต่เดิมมีให้ใช้งานบน Pixel 3 โดยจะรวมเฟรมจำนวนมากเข้ากับภาพที่มีความละเอียดสูงกว่าโดยตรง ซึ่งแตกต่างจากใดๆ เทคนิคการซูมแบบดิจิทัลก่อนหน้านี้ขึ้นอยู่กับการครอบตัดรูปภาพเดียวแบบขยายขนาดและดีกว่า ด้วยเหตุนี้ รายละเอียดจึงเพิ่มขึ้นอย่างมากและเทียบได้กับเลนส์ซูมออปติคัล 2x ที่พบในสมาร์ทโฟนอื่นๆ โดยประมาณ การซูมแบบความละเอียดสูงคือเมื่อคุณบีบ-ซูมก่อนกดชัตเตอร์ คุณจะได้รายละเอียดในรูปภาพมากกว่าการครอบตัดในภายหลัง
พูดง่ายๆ ก็คือ Super Res Zoom จะรวมรายละเอียดเข้าด้วยกัน จากหลายช็อตเพื่อปรับปรุงคุณภาพและความคมชัดของภาพ ทั้งหมดนี้เป็นไปได้ด้วยการผสมผสานระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ คุณจะสามารถจับภาพที่ชัดเจนและมีคุณภาพสูงจากระยะไกล ทำให้เพื่อนของคุณเชื่อว่าคุณอยู่ที่สนามเมื่อพวกเขาเห็นภาพที่คุณถ่ายนักกีฬาคนโปรดของคุณขณะกำลังเคลื่อนไหว
#5. Pixel Call Assist
ที่ Google I/O Pixel Call Assist จะเปิดตัวพร้อมกับ Pixel 7, Pixel 7 Pro, Pixel Watch และ Pixel Tablet Pixel Call Assist ตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เราพบเมื่อโทรออก เช่น การถอดเสียงเมนูโทรศัพท์อัตโนมัติและการคำนวณเวลารอขณะพักสาย การโทรและส่งข้อความอาจทำได้อย่างรวดเร็วเมื่อใช้ร่วมกับแอปสื่อสารที่คุณต้องการ
มีคุณลักษณะเช่น:
คุณลักษณะถือสายแทน: ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวาง โทรศัพท์ลงในขณะที่รอสาย และแจ้งเตือนผ่านการแจ้งเตือนแบบพุชและการสั่นเมื่อมีคนเข้าร่วมที่ปลายอีกด้านหนึ่ง หน้าจอการโทร: คุณลักษณะที่แจ้งผู้ใช้ด้วยปุ่ม”หน้าจอการโทร”เมื่อมีหมายเลขที่ไม่รู้จักโทรมาที่โทรศัพท์ของตน การแตะปุ่มจะเชื่อมต่อผู้โทรเข้ากับ Google Assistant ซึ่งจะถามถึงตัวตนของผู้โทรและวัตถุประสงค์ของการโทร คุณสมบัตินี้มีประโยชน์ในการคัดกรองและระบุการโทรสแปม และตั้งค่าให้ทำงานโดยอัตโนมัติ ต่อสายตรงของฉัน: คุณลักษณะที่คัดลอกตัวเลือกเมนูอัตโนมัติและแสดงเป็นปุ่มบนหน้าจอโทรศัพท์ สิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถเลื่อนดูตัวเลือกเมนูต่างๆ ได้ง่ายขึ้น คุณลักษณะนี้ยังคงเปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้น แม้ว่าจะสามารถปิดใช้งานได้โดยการเข้าถึงตัวเลือก Direct My Call ในเมนูการตั้งค่าของแอปโทรศัพท์ ล้างการโทร: ใช้ AI เพื่อลดเสียงรบกวนรอบข้างและปรับปรุงคุณภาพการโทรสำหรับผู้เข้าร่วมทั้งหมด และสามารถเปิดใช้งานได้โดยการสลับสวิตช์”ใช้การโทรที่ชัดเจน”ในเมนูการตั้งค่าของแอปโทรศัพท์
อ่านด้วย-ต้องการแก้ไขภาพที่พร่ามัวหรือไม่ ลองใช้เครื่องมือออนไลน์ 10 รายการ
#6 Guided Frame
เมื่อเปิดตัว Pixel 7 series ฟังก์ชันใหม่ที่เรียกว่า Guided Frame ก็มาถึง ช่วยให้ผู้ใช้ได้กรอบใบหน้าที่สมบูรณ์แบบสำหรับการถ่ายเซลฟี่ ด้วยการใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า กรอบนำทางจะแจ้งให้คุณทราบว่าควรขยับกล้องให้ไกลขึ้น ใกล้ขึ้น ไปทางซ้าย ไปทางขวา ขึ้นหรือลง (ผ่านเสียง) จะเริ่มจับเวลาเพื่อถ่ายภาพหลังจากที่ใบหน้าของคุณอยู่ในกรอบที่เหมาะสม และมันจะแนะนำคุณในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการให้ได้ยิน
กรอบนำทางเป็นคุณลักษณะของโหมด TalkBack ของ Google ซึ่งทำให้โทรศัพท์ของคุณมีระบบนำทางด้วยเสียงพูดและท่าทาง คุณลักษณะและโหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของตัวเลือกการช่วยการเข้าถึง ซึ่งออกแบบมาสำหรับคนตาบอด TalkBack เป็นฟังก์ชันที่หลายคนพบว่ามีความสำคัญ เนื่องจากผู้ใช้ดังกล่าวอาจประสบปัญหาในการถ่ายภาพในอุดมคติ อย่างไรก็ตาม ใครๆ ก็สามารถใช้มันได้ สรุปแล้ว Guided Frame เป็นฟีเจอร์ที่ค่อนข้างเจ๋ง รวมถึงสำหรับผู้ที่ไม่พิการทางสายตาด้วย
#7. นักแปลสด
การแปลสดสามารถแปลข้อความที่คุณส่งและเสียงที่คุณส่งได้ทันที แม้ว่าคุณจะสามารถคัดลอกและวางข้อความลงใน Google แปลภาษาได้ แต่การแปลสดจะกำจัดคนกลางและแปลโดยตรง ทำให้แชทของคุณเร็วขึ้น โทรศัพท์ยังทำงานโดยใช้คุณสมบัติการแปลเสียง เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากไม่ว่าคุณจะเดินทางหรือโต้ตอบกับผู้คนจากภูมิหลังอื่น หรือคุณแค่สงสัยเกี่ยวกับภาษาอื่นๆ ที่พูดในบริเวณใกล้เคียง