Kodak Luma 350 Portable Smart Projector เป็นโปรเจ็กเตอร์ปาล์มท็อปรุ่น Luma ที่ดีที่สุดของบริษัท มันสว่างกว่า Kodak Luma 150 แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างจาก Luma 150 และ Luma 75 ก็คือมันมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6 ซึ่งให้คุณติดตั้งและเรียกใช้แอพ Android มันฉายภาพที่ค่อนข้างใหญ่และใช้งานได้สำหรับความสว่าง ใช้งานได้ดีสำหรับการรับชมภาพยนตร์และภาพถ่าย

Luma 350 เป็นโปรเจคเตอร์ที่ใช้ LED ซึ่งใช้เทคโนโลยี DLP จาก Texas Instruments มีความสว่าง 200 ANSI lumens และ Contrast Ratio 3,500:1 มีอัตราส่วนภาพแบบไวด์สกรีน 16:9 และความละเอียด 854 x 480 พิกเซล หรือที่เรียกว่า FWVGA หรือ 480p นี่คือความละเอียดทั่วไปสำหรับโปรเจ็กเตอร์ขนาดเล็ก

คุณสมบัติ:

ระบบปฏิบัติการ Android 6 ให้คุณดาวน์โหลด เรียกใช้แอพ (รวมถึงแอพควบคุม) น้ำหนักเบาและพกพาได้ มีรีโมทคอนโทรล แบตเตอรี่ในตัว ฉายภาพได้ดี-ขนาดภาพสำหรับความสว่าง คุณภาพของภาพถ่ายที่เหนือกว่า

ตามปกติสำหรับโปรเจ็กเตอร์ที่ใช้ LED แหล่งกำเนิดแสงได้รับการจัดอันดับให้อยู่ได้นาน 30,000 ชั่วโมง ซึ่งนานกว่าโปรเจ็กเตอร์เองมาก Luma 350 ดูเรียบง่ายแต่ดูดี เป็นสีขาวขลิบทอง สูง 1.1 นิ้ว กว้าง 4.4 นิ้ว ลึก 4.4 นิ้ว มันยืนอยู่บนสี่ขาเล็ก ๆ ที่เพิ่มความสูงเข้าไปอีก 1 ใน 8 นิ้ว มันพอดีกับฝ่ามือที่ยื่นออกมาของฉัน พกพาไปไหนมาไหนสะดวกเพราะมีน้ำหนักเพียง 12 ออนซ์เท่านั้น

จากด้านบน Luma 350 ดูเหมือนโปรเจคเตอร์ Palmtop รุ่นอื่นๆ เป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมมน โลโก้ Kodak และ DLP อยู่ที่ด้านบนของโปรเจ็กเตอร์ และมีวงกลมสีเงินเล็กๆ อยู่ด้านหลัง เมื่อคุณกดปุ่มเปิดปิดซึ่งอยู่ทางด้านขวาเมื่อคุณมองจากด้านหลัง วงกลมจะสว่างขึ้นเพื่อแสดงว่าเป็นปุ่มเสมือนกลางของตัวควบคุมสี่ทิศทางที่สามารถควบคุมได้โดยการสัมผัส

จะรับ Kodak Luma 350 Portable Smart Projector ได้อย่างไร

(มีลูกศรชี้ไปทางซ้าย ขวา ขึ้น และลงที่ด้านใดด้านหนึ่ง) หากคุณไม่ทำอะไรเลย ไฟจะดับในเวลาประมาณห้าวินาที หากต้องการเปิดอีกครั้ง ให้กดตรงกลางวงกลม รีโมทสีขาวบางมีตัวควบคุมแบบเดียวกัน แต่ยังมีปุ่มสำหรับเปิดปิด ปุ่มโฮม ปุ่มย้อนกลับ ปุ่มควบคุมระดับเสียง เมนู และเมาส์ ต้องใช้แบตเตอรี่ AAA สองก้อนเพื่อจ่ายไฟให้กับรีโมท (ไม่รวม)

By Maisy Hall

ฉันทำงานเป็นนักเขียนอิสระ ฉันยังเป็นวีแก้นและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย พอมีเวลาก็ตั้งใจทำสมาธิ